ค้นหา "ผม" : Who are U?

Google
 

싼야민공-Phomthong's LiveTV 3G+ Online

phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free

Words of Life

Fan Club Box: ของฝากจากแฟนคลับ

Saturday 15 November 2014

มอนางเพลีย กาฬสินธุ์


มอนางเพลีย
จ.กาฬสินธุ์
ม.นางเพลีย ย่อมาจาก มอนางเพลีย...
บางคนอาจคิดว่า เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งในประเทศไทยที่โนเนม ไร้ชื่อ ไม่มีคนรู้จัก
อันที่จริงกลับ เป็นชื่อของ ทางลาดชันแห่งหนึ่ง ที่แม้ไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้ารู้จักแล้วต้องยอม ถอยมาตั้งหลักก่อน...
เพื่อจะพิชิตประสบการณ์ของการขับซิ่งลง ทางลาดชัน โค้งเกือบ
2 กม.นี้...อยู่แถว บ้านนาไฮ่เดียว จ.กาฬสินธุ์
(รถมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้ กับ รถเกียร์ออโต้หมดสิทธิ์ ถ้าคนขี่หรือขับใจไม่ถึงหรือไม่ชำนาญพอ...แหกโค้งประจำ)
เนื่องจากเป็นทางลาดชัน แบบแตะเบรกแล้ว กระดกม้วนตีลังกาแบบกายกรรมเปียงยางจากข้างหลังได้เลย...
นี่คือ ไตเติ้ลแบบย่อๆ ไว้ ก่อนจะเล่าที่มาของเรื่องนี้

2 พ.ย. 2557 หลังจากเสกสุสาน เคารพไหว้บรรพบุรุษและรวมญาติประจำปีเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมต้องซิ่งกลับมา
ทำงานที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ระยะทางประมาณ
180 กม. ด้วยเจ้า Honda i-Con มังกรทางเรียบคู่ใจ กะ หมวกนิรภัยประจำตัว Honda Zoomer-X สีส้ม... ซึ่งเป็นช่วงซ้อมฝึกขี่ให้ชำนาญขึ้น เพื่อจะขึ้นไปซิ่ง Bigbike ออกทริปกับเพื่อนๆ ได้
ผมได้เลือกกลับเส้นทางเดิม เพื่อจะได้คุ้นเคยกับเส้นทาง โดยขี่ออกจากบ้านเกิดเข้า อ.พังโคน เพื่อทำธุระส่วนตัวและแวะเติมน้ำมันและเตรียมน้ำดื่มกับสิ่งของจำเป็น เผื่อมีปัญหาระหว่างทางที่ไม่คาดคิด...เท่าที่จำเป็น

เวลา
10.30 น. ออกจาก อ.พังโคน มุ่งสู่ อ.วาริชภูมิ ผ่านบ้านคำบิด ซึ่งต้องเลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าสู่เส้นทางที่สวยงามตาดภูวง
แค่สามวันจากวันที่กลับมาบ้าน ชาวบ้านที่นี่ทำงานกันเร็วมากๆ แข่งกับธุรกิจที่ในปัจจุบันแข่งขันสูง... ชาวนาได้เกี่ยวข้าว
เสร็จไปหลายที่ ส่วนใหญ่นิยมใช้รถเกี่ยวข้าวเพื่อประหยัดต้นทุน ประมาณ
600-800 บาท ต่อไร่ มีน้อยคนที่ยังใช้การจ้างคนเกี่ยว วันละ 300-500 บาท แน่นอนกว่า การลงแขกเกี่ยวข้าวนั้น แทบไม่มีอีกเลย เพราะเศรษฐกิจมันรัดตัวทุกคน
เรียกว่า น้ำใจนั้นมี แต่หนี้มันรัดตัว ..เงินทอง จึงเป็นการตอบแทนจากการช่วยเหลือที่หลายคนมีความสุขที่สุด?

เมื่อผ่านตาดภูวงแล้ว .....อีก
33 กม. จะถึง อ.วังสามหมอ ..ผมคิดที่จะลองหาทางลัด เพราะได้ยินว่า ใกล้มาก และประหยัดเวลาดี คือ ทางแยกทางซ้ายมือ ที่มุ่งไป อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ถ้าใจอยากลอง ก็ต้องไปให้ได้ จึงได้เลี้ยวซ้าย
บ่ายหน้าเข้าสู่ อ.คำม่วง ตามเส้นทางผ่าน ต.ผาสุก จ.อุดรธานี เส้นทางนี้สวยมากๆ อยู่ติดเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก
ตลอดฝั่งซ้ายมือมองเห็นเทือกเขาภูพาน สลับซับซ้อนกันอยู่ เหมือนอยู่สวิตเซอร์แลนด์ (เมืองไทย) ดูๆ แล้วเหมือนวิ่งบนสันเขา
เส้นทางค่อนข้างอันตรายมาก

ถนนว่างมากๆ ไม่ค่อยมีรถวิ่งสวนหรือวิ่งตามเลยสักคัน สองฝั่งส่วนใหญ่จะเป็นสวนยางพารา.. เมื่อผ่านสะพาน พันชาด
ก็เปลี่ยนจากถนนลาดยาง เป็นทางหินลูกรัง ฝุ่นตลบ (เรียกว่า ทางเกวียนเลยดีกว่า) ประมาณ
2 กม. ที่ถูกใจผมที่สุด
เหมือนได้เจอเส้นทางในหนังย้อนยุคเมื่อครั้ง สรพงศ์ ชาตรี ยังเป็นพระเอกหนุ่มยอดนิยม เล่นหนังบู๊ให้ดูกัน.

เมื่อเข้าเขต ต.ดงสวน จ.กาฬสินธุ์ เส้นทางยิ่งสวยมากๆ ถนนลาดยางเพิ่งทำเสร็จใหม่ วิ่งได้สบายใจ สัก
4-5 กม.
แต่ทุกช่วงที่เป็นหมู่บ้าน ถนนจะขรุขระ เนื่องจากใช้หินตัวหนอนแบบฟุตบาทมาทำถนน ต้องระมัดระวังและลดความเร็วในการขับขี่ เมื่อมาถึง ต.ดงสวนนั้น เป็นเวลา
12.00 น. พอดี จึงหยุดรถที่ศาลากลางหมู่บ้าน เพื่อดื่มน้ำและพักสัก 15 นาที
จึงได้โทรกลับไปบอกแม่กับพ่อด้วยความดีใจว่า ได้เจอทางลัดเข้า อ.เมืองกาฬสินธุ์ แล้ว ตอนนี้อยู่ดงสวน อีกแค่
19 กม.
ก็จะถึง อ.คำม่วงแล้ว วันนี้คงกลับถึงเร็วกว่าปกติ ไม่ต้องเป็นห่วง..

ทีแรกว่า จะพักหรือไม่ก็เที่ยวแถวๆ นี้ อีกสักหนึ่งชั่วโมงเพื่อเก็บภาพสวยแล้วค่อยไปต่อ แต่สังหรณ์ใจว่า เราไม่คุ้นทาง
เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน จึงได้ออกเดินทางตามกำหนดเดิม โดยขี่ออกจาก ต.ดงสวน มุ่งสู่ อ.คำม่วง  ขับตามเส้นทางถนนหินตัวหนอนที่ค่อนข้างขรุขระ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าชุมชนที่ร่มรื่น และเมื่อมาถึงเส้นทางจะเข้าสู่บ้านนาไร่เดียว จ.กาฬสินธุ์
ถนนจะเป็นทางลูกรัง และขรุขระที่สุด ผมขี่ตามมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ มอนางเพลีย (มารู้ภายหลัง เมื่อถึงกาฬสินธุ์แล้ว)
มอนางเพลีย เป็นทางลงเขาที่ลาดชันที่สุด ประมาณเกือบ
2 กม. มีบางช่วงเป็นทางโค้งด้วย พื้นถนนก็เป็นลูกรังที่ลื่น
ผมเริ่มต้นขับลงด้วยความระมัดระวัง ลงมาได้สัก
200 เมตร รู้สึกเสียวสันหลัง เย็นวาบๆ มีลางสังหรณ์ว่า อยากได้ทางลัด
แล้วกลับถึงไวๆ (คงได้ไปไวจริงๆ ก็คราวนี้) ทางลงนี้ มันต้องใช้เกียร์ต่ำ แต่รถผมมันเกียร์ออโต้ ดูแล้วคงขี่ลงไม่ไหว...
ผมกำดิสก์เบรกทั้งล้อหน้าล้อหลัง ทั้งมือซ้ายและมือขวาเลย .. แต่มันชันเกือบ
45 องศา เหมือนหัวจะทิ่ม รถมันจะยกท้าย
ตีลังกาจากด้านหลังเอาให้ได้ รถมันพุ่งลงแรงมากๆ รู้เลยว่า เบรกเอาไม่อยู่แน่ๆ แถมถนนลูกรังยังมาลื่นให้เสียหลักง่ายๆ
ผมจึงลงจากรถ หวังว่าจะจูงมอเตอร์ไซค์คู่ใจ เจ้ามังกรทางเรียบลงไปให้ได้ แต่เจ้ากรรม ผมเอาไม่อยู่? กำเบรกสองข้าง
รถยังจะลากผมลงไป แถมจะยกท้ายตีลังกาหรือไม่ก็ลื่นลงข้างขวาอีกต่างหาก...

คิดถึงพ่อกับแม่และน้องๆ แล้ว ผมจึงตัดสินใจ ขอฝากไว้ก่อนนะเจ้า มอนางเพลีย วันนี้ รถไม่เหมาะที่จะลงไปให้ได้จริงๆ?
ผมจึงตัดสินใจขี่กลับขึ้นไป และวิ่งย้อนตามเส้นทางเดิม (ต้องเพิ่มระยะทางอีก
18 กม.) ...
หวังทางลัด กลับเสียเวลา แต่ไม่เป็นไรได้ประสบการณ์ว่า บางทีถ้าสังขารหรือสภาพของเราไม่ไหว ก็ต้องกลับมาฟิตก่อน
แล้วค่อยเจอกันใหม่ก็ได้?  ผมได้วิ่งเข้า อ.วังสามหมอ ผ่าน บ.โพน , อ.สหัสขันธ์ และเข้าสู่กาฬสินธุ์ ตามเส้นทางเดิม..
ถึงกาฬสินธุ์โดยปลอดภัย..

เมื่อถึง บ.โพน คนที่รู้จักเขาบอกว่า ดีแล้วที่ตัดสินใจกลับทางเดิม เพราะที่ มอนางเพลีย นี้ มักประสบอุบัติเหตุเป็นประจำ
ถนนยังไม่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มๆ นักซิ่งของบ้านนาไฮ่เดียว ที่ชำนาญใช้เป็นทางผ่านเท่านั้น ส่วนน้องอีกคน
บอกว่า ที่ มอนางเพลีย เจ้าที่แรงที่สุด ทางโค้งลาดชัน เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็มีสองสามีภรรยา ขับรถไถพ่วงล้อตกเหว
เส้นทางนี้ ถ้าใครคิดว่า ต้องการทางลัด ถึงที่หมายไว ก็ลองมาวัดใจกันดู แต่รถน่าจะเป็นรถใช้เกียร์ต่ำได้ จะดีกว่า..
หรือถ้าอยากลองวัดใจจริงๆ ก็มาวัดใจ ด้วยรถเกียร์ออโต้ดูก็ได้

ฝากไว้ก่อนนะ มอนางเพลีย จ.กาฬสินธุ์ รอให้เจ้า
Honda i-Con มังกรทางเรียบ โตขึ้น เป็น Motorcross
หรือไม่ก็เป็น Honda CBR1000R, Honda CBR300R, Honda CBR300F หรือ Ducati เท่ห์สักคัน
แล้วจะกลับมาพิชิตมอนางเพลีย ให้สมใจ
5555

Wednesday 12 November 2014

Honda i-Con มังกรทางเรียบ

Honda i-Con มังกรทางเรียบ
ผม หนุ่มสกลนคร โสดสนิท แม้อายุมากแล้ว แต่ก็ยังรักอิสระ (ของรักของหวงมากที่สุด) เลยยังไม่คิดที่จะแต่งงานให้มีห่วง
ช่วงวันหยุดปิดเทอมหรือวันหยุดยาว มักจะมีทริปพิเศษ ขี่มอเตอร์ไซค์ตามเส้นทางที่กำหนด กินลม ชมวิวทิวทัศน์
ดูสภาพแวดล้อมต่างๆ ตลอดเส้นทางสู้จุดหมาย.. อยู่เป็นประจำเหมือนครั้งที่ทำงานอยู่ที่พิษณุโลก
10 กว่าปี
ที่ตระเวนออกทริปมอเตอร์ไซค์ในวันหยุด ด้วยเจ้า
Honda i-Con มังกรทางเรียบ(สีเขียว) อะไหล่แต่งครบชุด..
ไปทั่วเกือบสิบสามจังหวัดในแถบนั้น

ปี
2556 ผมได้ย้ายตามน้องชายมาทำงานที่กาฬสินธุ์ พอถึงเดือนตุลาคมปีนี้เอง ก็ได้ปีกว่าๆ พอดี
มันคงถึงเวลาที่เจ้า
Honda i-Con มังกรทางเรียบ(สีเขียว) ของผม ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่สกลนครสักที
เมื่อคิดถึงระยะทางประมาณ
150 -180 กม. จากกาฬสินธุ์ถึงบ้านเกิด ผมเลือกที่จะไม่ใช้เส้นทางข้ามภูพานจาก
กาฬสินธุ์ถึงสกลนคร แล้วย้อนไปทางอุดรธานี เพราะปลายฝนต้นหนาว ถ้าซิ่งมอเตอร์ไซค์ข้ามภูพาน
มีหวังได้เจอ ฝูงเจ้าจ๋อ ลิงป่าฝูงใหญ่ ที่คอยมานั่งบนสะพานเพื่อขออาหารข้างถนนบนภูพาน คอยรบกวนเป็นแน่ๆ...
ผมตัดสินใจเลือกเส้นทางทริปนี้ เป็นจากกาฬสินธุ์
-สหัสขันธุ์(อ.ใหม่) อ.คำม่วง-อ.วังสามหมอ-อ.วาริชภูมิ
ผ่านเขื่อนน้ำอูน และข้ามสู่บ้านเกิดของผมเอง... รวมระยะทางประมาณเกือบ
160 กม.

ทริปขากลับผ่านไปด้วยดี... วันที่
28 ต.ค. 2557 หลังจากประชุมเสร็จในตอนเที่ยง เวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ
ผมเริ่มขับเจ้า
Honda i-Con มังกรทางเรียบ(สีเขียว) ของผม เจ้ากาฬสินธุ์ เป้าหมาย คือ หยุดพักเครื่องที่ ร้าน 7-eleven
อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อแวะซื้อน้ำดื่ม เชคน้ำมันเครื่องแกสโซฮอล์ 95 (ถ้าหาปั้มเบนซินได้ก็คงจะดี)
ผมขับด้วยความเร็วคงที่
60-80 กม.ต่อ ชม. เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน...ถึงเป้าหมายเวลา 13.46 น.
หลังจากซื้อน้ำดื่มและน้ำอัดลม พักเครื่องสัก
15  นาทีแล้ว ผมได้เริ่มขี่เจ้ามังกรทางเรียบคู่ใจ เป้าหมาย คือ มุ่งสู่จุดพักแห่งที่สอง คือ บ.โพน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องผ้าไหมแพรวาที่สุด (บ้านคนภูไทชาวกาฬสินธุ์)...
ระหว่างทางจาก อ.สหัสขันธ์ (อ.ใหม่) ถึง บ้านโพนนั้น แทบไม่มีปั้มน้ำมันที่เติม แกสโซฮอล์
95 หรือ เบนซินเลย
จะมีก็อยู่ปั้มหนึ่ง อยู่ขวามือก่อนจะเข้าบ้านโพน?... ที่มีเบนซินสูตรพิเศษให้ลองด้วย..เพียงหนึ่งปั้ม
แนะนำว่า ให้เติมเต็มถึงไว้เลย เพื่อความสบายใจในการขับขี่...
ถึงบ้านโพนแล้ว ผมไม่หยุดพักรถ แต่เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าสู่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ทันที ....
เมื่อถึง อ.คำม่วง ให้มองป้ายทางด้านซ้ายมือ โดยเลี้ยวซ้ายวิ่งมาทางทิศต.ตก..
เมื่อเจอเส้นทางหลักแล้ว ให้วิ่งลงทางทางทิศใต้... เมื่อพบทางสามแยก บริเวณโรงเรียนแล้ว
ให้เลี้ยวขวาเพื่อวิ่งเข้าสู่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี อีกประมาณ
18 กม. ...
เส้นทางนี้ วิ่งทำเวลาได้มากๆ ถนนดี รถว่าง ทางเรียบ ผมวิ่ง
80-120 กม.ต่อ ชม. เพื่อทำเวลาให้ถึงเป้าหมาย
ประมาณบ่ายสามโมง... ตลอดเส้นทางนั้นสวยมากๆ เป็นเทือกเขา ป่าอ้อย สวนยางพารา (ผมว่า ถูกใจคนออกทริปที่สุด)
เป็นช่วงของเส้นทางที่ออกทริปได้สบายใจที่สุด

ถึง อ.วังสามหมอแล้ว เลี้ยวขวา เพื่อ มุ่งสู่ อ.วาริชภูมิ และ อ.พังโคน ... ผ่านมาสัก
1 กม. คือ จุดพักรถของผม
เป็นร้านก้อยขม ต้มแซบ แสนอร่อยเจ้าของร้านก็แนวเพื่อชีวิตเหมือนกัน ..จึงแวะพักทานข้าวเที่ยวและพักรถประมาณ
30 นาที ...ขณะเดียวกัน ก็โทรบอกแม่ที่บ้านว่า วันนี้ผมจะกลับมาเสกสุสาน จุดธูปเทียนเคารพไหว้บรรพบุรุษประจำปี
ที่บ้านเกิดแน่นอน ไม่ต้องห่วง เพราะผมซิ่งเจ้า
Honda i-Con มังกรทางเรียบเขียว คู่จัยมาแบบประหยัดน้ำมัน..
และโทรบอกน้องชายที่กาฬสินธุ์ว่า ตอนนี้ ได้ลองขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านมาถึงครึ่งทางแล้ว...

15.30 น. ออกจาก อ.วังสามหมอ มุ่งหน้าสู่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ช่วงนี้ มีบางช่วงที่ถนนขรุขระที่สุด
ต้องขับด้วยความระมัดระวังไหล่ทางที่สุด... ประทับใจเส้นทาง ตาดภูวง มากๆ เพราะ มีภาพรวงข้าวเหลืองอร่าม
และภูเขาล้อมรอบอยู่อย่างสวยงาม... ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยาวที่สุดสามารถวิ่งได้
100-120 กม. ต่อ ชม. เพื่อทำเวลา
ถึงสามแยกบ้านคำบิด ให้เลี้ยวขวา มุ่งหน้าสู่ อ.วาริชภูมิ (แถวนี้ ควรแวะเติมน้ำมันที่ปั้มฝั่งขวามือ เมื่อเลยคำบิดมานิดๆ)
เมื่อถึงวาริชภูมิ ก็เลี้ยวขวาตรงเจ้าพ่อฯ...มุ่งสู่ อ.พังโคน ... ผมขับมาถึงสามแยก ก็เลี้ยวขวาบ่ายหน้าเพื่อชมวิวทิวทัศน์
เมื่อเวลายามค่ำ (ยามแลง) ตะวันตกดินฝั่งเขื่อนน้ำอูน...โชคดีครับ มาทันเวลาตะวันตกดินที่ ปากกระโถน เขื่อนน้ำอูน
ประมาณ
17.00 น. พอดี... จากนั้นก็บ่ายหน้ามุ่งสู่บ้านเกิด... โดยแวะไปไหว้พ่อให้ท่านประหลาดใจเล่นๆ
ที่ ซุ้มพระนเรศฯ บ้านนา ขณะที่ท่านมาให้อาหารไก่ชนและไก่ดำภูพาน
1 ที่บ้านนาฯ ของพวกเรา... 17.30 น.
.....กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ... ได้พบกับแม่ พ่อ และน้องๆ ที่บ้านอย่างอบอุ่น...

ในคืนนั้น ผมได้ร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา) อย่างกตัญญู ขอบคุณพระเจ้าและบรรพบุรุษได้คุ้มครอง
ลูกและหลานชายคนแรกผู้ที่เคยอ่อนแอไม่ค่อยสบาย ทุกคนต้องฟูมฟักมาอย่างดี แต่วันนี้ เขาได้โตเติบ เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน สู้ชีวิตได้เยี่ยงบรรพบุรุษ...ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน ด้วยตนเองอย่างน่าภาคภูมิใจ...
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเป็นได้ด้วยอิสระของตนเอง”
“สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินทองและของตอบแทนใดๆ
คือ อิสรภาพในการเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเอง โดยไม่มีสิ่งใดมาบังคับ” ..... ไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย?